
ณ วันหนึ่งของฤดูร้อนอันอบอ้าว มีแมลงเม่าตัวหนึ่งกำลังเล่นกับตั๊กแตนอย่างสนุกสนานในท้องนา ระหว่างที่เล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ตั๊กแตนหันไปเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังเลื่อนลับขอบฟ้า ตั๊กแตนไม่อยากเล่นต่อแล้ว จึงพูดว่า…
“นี่ วันนี้เราเล่นกันแค่นี้นะ แล้วพรุ่งนี้เราค่อยมาเล่นกันใหม่!” แมลงเม่าเอียงคอสงสัย
“อะไรนะ พรุ่งนี้งั้นเหรอ…พรุ่งนี้คืออะไร วันนี้เป็นวันสุดท้ายไม่ใช่เหรอ แล้วพรุ่งนี้คืออะไรกัน”
“พรุ่งนี้ก็คือวันที่มาหลังจากพระอาทิตย์ตก และมีดาวเป็นประกายระยิบระยับบนท้องฟ้าน่ะสิ ในเวลากลางคืน สัตว์ทั้งหลายจะหลับใหล พอพระอาทิตย์ขึ้นอีกครั้ง สัตว์ทั้งหลายก็จะตื่นจากการหลับนั่นละคือวันพรุ่งนี้”
แต่ไม่ว่าตั๊กแตนจะอธิบายยังไง แมลงเม่าก็ไม่เข้าใจ เพราะว่าแมลงเม่ามีชีวิตอยู่ได้แค่วันเดียวเท่านั้น
วันต่อมาตั๊กแตนพยายามมองหาแมลงเม่าแต่ก็หาไม่เจอ ตั๊กแตนจึงไปเล่นอย่างสนุกสนานกับกบ ซึ่งเป็นเพื่อนใหม่ ทั้งสองเล่นกันอย่างเพลิดเพลินตลอดฤดูร้อน เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ที่มีสายลมเย็นๆ พัดโชยมาเยือน แม้ว่าจะอดทนเล่นต่อไป แต่อากาศก็เย็นลงๆจนตั๊กแตนและกบทนเล่นต่อไปอีกไม่ได้ กบจึงพูดกับตั๊กแตนว่า….
“ตั๊กแตน อากาศเริ่มหนาวแล้วละ ไว้เรามาเล่นกันต่อปีหน้านะ!”
ตั๊กแตนเกาหัวก่อนถามกลับไปว่า…
“ปีหน้าคืออะไรเหรอ”
กบไม่เข้าใจว่าทำไมตั๊กแตนถึงถามอย่างนั้น แต่กบก็อธิบายให้ฟังว่า
” ถ้าเวลาผ่านไปอีกหน่อย ทั้งโลกนี้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง แล้วฉันก็จะเข้าไปนอนอยู่ใต้ดิน พอถึงฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น ฉันจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง นั่นแหละคือปีหน้า”
แต่ตั๊กแตนไม่เข้าใจที่กบพูดเลยแม้แต่น้อย พอหนึ่งปีผ่านไป กบก็ไม่ได้เจอกับตั๊กแตนอีกเลย
แมลงเม่าไม่เข้าใจว่าวันพรุ่งนี้คืออะไร ส่วนตั๊กแตนก็ไม่เข้าใจว่าปีหน้าคืออะไร ดังนั้น พวกมันจึงไม่เชื่อว่า วันพรุ่งนี้และปีหน้ามีอยู่จริง
แมลงเม่าเชื่อในเวลาปัจจุบัน ที่เรียกว่า “ตอนนี้”
ส่วนตั๊กแตนก็เชื่อในเวลาปัจจุบัน ที่เรียกว่า “ปีนี้”
คนส่วนมากชอบอ้างถึง “พรุ่งนี้” หรือ “อีกเดี๋ยว”
แต่คำว่า “พรุ่งนี้” หรือ “อีกเดี๋ยว” นั้น เป็นคำโกหกที่ฟังดูดีมาก
จงทำเวลา “ปัจจุบัน” ให้เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่สุดของเรา
จงทำให้มันเป็นเสมือนสิ่งสำคัญที่เราหวงแหนที่สุด
ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าเพื่อนที่ชื่อ “ปัจจุบัน” เป็นเพื่อนที่ให้ของขวัญอันล้ำค่าแก่เรามากที่สุดอย่างไรล่ะ
ที่มา : Tamdee