เรื่องดี ๆ มีไว้แบ่งปัน

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ภรรยากำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว มีสามีคอยกำกับอยู่ข้าง ๆ “คนเบา ๆ ช้า ๆ หน่อย ระวังหน่อยสิ ไฟแรงไปเร็ว ๆ รีบพลิกปลาได้แล้ว ตักออกมาสิ น้ำมันเยอะไปนะ คีบเต้าหู้วางให้ตรง ๆ สิ! ” ภรรยาทนไม่ไหวจึงพูดออกไปว่า “นี่คุณ ฉันทำกับข้าวเป็น พูดอยู่ได้” “ที่รัก ผมรู้ว่าคุณทำเป็น” ผู้เป็นสามีบอกออกไป “ผมเพียงอยากให้คุณรู้ว่า เวลาที่ผมขับรถแล้วคุณคอยบอกให้ผมเบรก ให้ผมเร็ว ให้ผมระวัง ให้ผมแซงน่ะ…

หนูตกถังข้าวสาร

หนูตัวหนึ่งตกลงไปในถังข้าวสาร แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ มันดีใจมาก มันคิดว่ามันโชคดี มันจึงกินข้าวสารนั้นอย่ างอิ่มหมีพีมัน กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เป็นอยู่อย่างนี้หลายวัน และวันแห่งความสุขก็มักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ วันหนึ่งตอนที่มันกินจนเห็นพื้นของถังข้าวสาร มันฉุกใจคิด แต่ข้าวสารในถังก็เป็นสิ่งที่ยั่วยวนเหลือเกิน มันกินจนข้าวสารในถังหมดไป ถึงตอนนี้มันถึงรู้ว่า การปีนออกจากถังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ : การใช้ชีวิตของเราดูเหมือนปกติธรรมดา แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเต็มไปด้วยกับดักและหลุมพรางที่แสนอันตราย

ปฏิบัติกับคนอื่นเหมือนกับที่อยากให้คนอื่นปฏิบัติกับเรา

ชายหนุ่มซื้อปลามาจากตลาด เขาบอกภรรยาว่า… “ที่รัก ผมซื้อปลามา คุณช่วยทอดให้หน่อยนะ เดี๋ยวผมจะไปดูหนังสักเรื่องหนึ่ง แล้วจะกลับมากิน” เมื่อภรรยาได้ยินว่าสามีจะไปดูหนัง ก็เอ่ยขึ้นว่า “ฉันไปดูด้วย!” ชายหนุ่มได้ตอบกลับไปว่า “อย่าไปเลย คุณอยู่ทำกับข้าวที่นี่ ค่าตั๋วก็แพง ผมไปดูคนเดียว เดี๋ยวจะกลับมาเล่าให้ฟัง พร้อมทานปลาที่คุณทำนะๆ” เมื่อชายหนุ่มกลับมาจากดูหนัง ก็เดินเข้าไปที่ห้องครัว แล้วถามภรรยาว่า “คุณ! ปลาทอดอยู่ไหน?” ภรรยาสาวนั่งอ่านหนังสือด้วยอาการสงบ แล้วตอบว่า “ฉันกินหมดแล้ว! มาๆ มานั่งใกล้ฉันเลยคุณ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟังว่าปลามันอร่อยยังไง?” ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ คือ…

ข้อคิด จากอดีตประธานาธิบดีอินเดีย Dr. Abdul Kalam

สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนได้นำเรื่องจริงให้ข้อคิด จากอดีตประธานาธิบดีอินเดีย Dr. Abdul Kalam มาฝากค่ะ ^_^ ดร. อับดุล กาลามได้เคยกล่าวว่า “ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก แม่ทำอาหารให้ผมทาน” คืนหนึ่งที่แม่ทำอาหารเย็นหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน คุณแม่วางจาน ‘ซุบซี’ และโรตีที่ไหม้เกรียมไว้ข้างหน้าพ่อของผม ผมกำลังรอดูว่ามีใครสังเกตเห็นโรตีไหม้ไหม แต่พ่อก็กินโรตีเข้าไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร แล้วเอ่ยปากถามผมว่า “ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง” ผมจำไม่ได้ว่าผมตอบพ่อไปว่าอะไรในคืนนั้น แต่ผมจำได้ว่าผมได้ยินแม่ขอโทษพ่อเรื่องโรตีไหม้ และผมจะไม่มีวันลืมสิ่งที่พ่อพูดกับแม่เลย พ่อของผมได้พูดว่า “ที่รัก ผมชอบโรตีไหม้นะ” ต่อมาในคืนนั้น ผมเข้าไปจูบพ่อ บอกราตรีสวัสดิ์…

ชาวนากับลาแก่

สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนก็มีเรื่องเล่าให้ข้อคิดมาฝากกันอีกเช่นเคยค่ะ ถ้าผู้อ่านพร้อมแล้ว ก็ไปอ่านได้เลยค่ะ ^_^ วันหนึ่งลาของชาวนาตกลงไปในบ่อน้ำ เจ้าลาร้องเสียงดังนานหลายชั่วโมง ในขณะที่ชาวนาเองก็พยายามใคร่ครวญคิดหาวิธีที่จะช่วยมันขึ้นมาให้ได้ แต่แล้วในที่สุด ชาวนาตัดสินใจว่าลาตัวนี้ก็แก่มาก และบ่อน้ำก็แห้งแล้ว และจำเป็นต้องปิดฝาอยู่ดี ชาวนาเลยคิดว่ามันไม่คุ้มที่จะดึงลาออกจากบ่อจริงๆ.. ต่อมาเขาจึงไปเชิญเพื่อนบ้านทั้งหมดมาช่วยเขา พวกเขาต่างหยิบพลั่วและเริ่มโยนดินลงในบ่อ ลาตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจึงร้องเสียงดังอย่างน่ากลัว หลังจากที่ชาวนาและชาวบ้านช่วยกันตักดินใส่ไปในบ่อได้สักสองสามพลั่ว พวกเขาก็เหลือบมองลงไปในบ่อ และก็ต้องประหลาดใจไปตามๆ กัน เพราะทุกครั้งที่ทุกคนสาดดินไปถูกหลังลา มันจะสะบัดดินออกจากหลัง แล้วก้าวขึ้นไปเหยียบบนดินเหล่านั้น ยิ่งทุกคนพยายามเร่งระดมสาดดินลงไปมากเท่าไร มันก็ก้าวขึ้นมาจากก้นบ่อได้เร็วมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ในไม่ช้าทุก คนก็ต่างประหลาดใจที่เจ้าลาสามารถโผล่พ้นขึ้นมาจากปากบ่อดังกล่าวได้สำเร็จในที่สุด เรื่องเล่าเรื่องนี้ให้ข้อคิดกับเราว่า ชีวิตกำลังจะโยนสิ่งสกปรกมาที่คุณ สิ่งสกปรกทุกชนิด……

ซามูไรกับชาวประมงญี่ปุ่น

สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนก็มีเรื่องเล่าให้ข้อคิดมาฝากกันอีกเช่นเคยค่ะ เชิญอ่านได้เลยจ้า ^_^ “ซามูไรกับชาวประมงญี่ปุ่น” กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ซามูไรคนหนึ่งได้ไปเก็บหนี้จากชาวประมงคนหนึ่ง “ขอโทษจริงๆ ข้าเสียใจที่ต้องบอกท่านว่า ข้ายังไม่มีเงินจ่าย เพราะปีที่ผ่านมาเป็นปีที่แย่ที่สุดปีหนึ่งของข้า” ชาวประมงกล่าว เมื่อซามูไรได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก จึงชักดาบออกมาเพื่อจะลงมือฆ่าชาวประมงคนนั้นทันที ส่วนชาวประมงก็คิดหาทางเอาตัวรอดทันทีเช่นกัน โดยพูดอย่างกล้าหาญว่า “ข้ากำลังศึกษาเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ อาจารย์ของข้าสอนว่า ไม่ควรจู่โจมคู่ต่อสู้เพราะความโกรธ” ซามาไรหยุดมองชาวประมงชั่วขณะ แล้วค่อยๆ ลดดาบลงและพูดขึ้นว่า “อาจารย์ของเจ้าฉลาดมาก อาจารย์ของข้าก็สอนเช่นนั้นเหมือนกัน บางครั้งความโกรธก็มักพรากเอาสิ่งที่ข้าควรจะได้มากกกว่านั้นหรือดีกว่านั้นไป เอาล่ะ ข้าจะให้โอกาาสเจ้าไปหาเงินมาใช้หนึ้อีกหนึ่งปี แต่ถ้าเจ้าจ่ายคืนไม่ครบแม้สตางค์แดงเดียว รับรองว่าข้าฆ่าเจ้าแน่” ในคืนนั้น…

อย่าอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็นคุณค่าของคุณ

สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนก็มีเรื่องเล่าให้ข้อคิดดี ๆมาฝากกันอีกเช่นเคยค่ะ เราไปติดตามอ่านกันเลยค่ะ ^_^ พ่อบอกกับลูกสาวว่า “ลูกเรียนจบมาด้วยเกียรตินิยม นี่คือรถที่พ่อซื้อเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้มันเก่าไปหน่อยแล้วล่ะ แต่ก่อนที่พ่อจะให้ ลูกลองเอาไปที่ลานจอดรถมือสองในตัวเมืองแล้วบอกพวกเขาว่าลูกต้องการขายมันและดูว่าพวกเขาเสนอราคาให้ลูกเท่าไรนะ” ลูกสาวไปที่ลานจอดรถมือสอง แล้วกลับไปหาพ่อของเธอและพูดว่า “พวกเขาเสนอเงินให้ลูกในราคา 1,000 ดอลลาร์ค่ะ เพราะพวกเขาบอกว่ามันดูทรุดโทรมมาก” พ่อบอกว่า “ถ้างั้นต่อไปลูกก็ลองเอารถไปที่โรงรับจำนำก็แล้วกัน” ลูกสาวไปที่โรงรับจำนำ กลับมาหาพ่อของเธอแล้วพูดว่า “โรงรับจำนำเสนอเงินเพียง 100 ดอลลาร์เท่านั้นเพราะมันเป็นรถเก่าค่ะ” พ่อขอให้ลูกสาวไปที่ชมรมรถยนต์แล้วแสดงรถให้พวกเขาดู ลูกสาวจึงนำรถไปที่คลับ แล้วกลับมาบอกพ่อของเธอว่า “มีคนในคลับเสนอเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ…