นิทานเรื่อง สิงโต สุนัขจิ้งจอก และลา
https://www.youtube.com/watch?v=511iuwusLic
กำลังใจจากสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา
วันหนึ่งลูกสาวพร่ำบนถึงชีวิตอันแสนลำเค็ญให้พ่อฟังว่า เธอกำลังรู้สึกอับจนปัญญาที่จะจัดการกับชีวิตและปรารถนาที่จะยอมแพ้พ่าย ด้วยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้และการแข่งขัน ประหนึ่งว่าเมื่อสางปัญหาหนึ่งเสร็จสิ้น อีกปัญหาหนึ่งก็ก้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นพ่อครัวจึงเดินนำเธอเข้าไปในครัว จัดแจงต้มน้ำในหม้อสามใบ ด้วยไฟแรงจนน้ำเดือด เขาใส่แครอทในหม้อใบแรก วางไข่ลงในหม้อใบที่สอง และตักกาแฟลงไปในหม้อใบสุดท้าย แล้วปล่อยให้มันต้มไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำอธิบายเลย ฝ่ายลูกสาวเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและหมดความอดทน ทั้งยังสงสัยว่าพ่อกำลังทำอะไร ยี่สิบนาทีผ่านไป เขาก็ปิดเตาแก๊ส ตักแครอทขึ้นมาวางไว้ในชาม นำไข่วางไว้ในชามอีกใบหนึ่ง และตักกาแฟไว้ในชามสุดท้าย แล้วหันไปถามลูกว่า “ลูกเห็นอะไรบ้าง” “แครอท ไข่ กาแฟ” เธอตอบ เขาจึงขอร้องให้เธอสัมผัสแครอท เธอจึงรู้ว่ามันนิ่ม แล้วเขาก็ให้ลูกสาวตอกไข่ เมื่อเธอแกะเปลือกไข่ออก…
รักษาน้ำใจ
ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง จอห์นนั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาพูดไปตามมารยาทว่า “คุณสวยจริง ๆ ครับ” ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่รับน้ำใจ ไม่แม้แต่จะกล่าวคำว่าขอบคุณ เธอพูดออกไปอย่างยโสว่า “น่าเสียใจ ฉันไม่อาจชมว่าคุณหล่อเหมือนที่คุณชมว่าฉันสวยได้!” จอห์นพูดออกไปอย่างสุภาพว่า “ไม่เป็นไรครับ แต่คุณควรฝืนใจฝึกพูดโกหกเหมือนผมบ้างก็ได้นะครับ” ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกอับอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ : การชื่นชมกันและกันแม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ก็เป็นน้ำหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ให้ยืนยาวได้
รู้จักเลือกใช้คำพูด
ปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย เด็กสาวนางหนึ่งซึ่งหน้าตาก็ไม่ได้สวยอะไรมาก เธอสมัครเป็นดาวคณะ ตอนที่เธอออกมาแนะนำตัวต่อหน้าเพื่อนนิสิต เธอบอกว่า “หากเพื่อน ๆ เลือกฉันอีกสิบปีข้างหน้า เพื่อน ๆ สามารถอวดกับลูก ๆ และสามีได้ว่า ในปีที่แม่เรียนอยู่ แม่สวยกว่าดาวของคณะ” เมื่อถึงเวลาเลือกดาวคณะ ปรากฏว่าเธอชนะ ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ : การจะพูดให้คนอื่นยอมรับคุณ ไม่ต้องบอกในความพิเศษและโดดเด่นของคุณ แต่จงทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเพราะคุณ พวกเขาจึงมีความพิเศษและโดดเด่นขึ้น
จงถนอมสิ่งที่เรามี
มีเสืออยู่สองตัว ตัวหนึ่งอยู่ในกรง อีกตัวหนึ่งอยู่ในป่า มันต่างคิดว่าที่ที่มันอยู่นั้นไม่น่าอยู่เลย ต่างก็อิจฉาการดำเนินชีวิตของซึ่งกัน วันหนึ่ง พวกมันจึงแลกที่อยู่กัน เสือทั้งสองตัวต่างก็มีความสุขกับสภาพแวดล้อมใหม่ ต่อมาไม่นาน เสือทั้งสองตัวก็ตาย ตัวหนึ่งอดตายอยู่ในป่า อีกตัวหนึ่งตายเพราะซึมเศร้าอยู่ในกรง ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ : บางครั้ง เราไม่ถนอมวาสนาที่เรากำลังได้รับอยู่ แต่เรามักอิจฉาในวาสนาของคนอื่น แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณมีนั่นแหละคือสิ่งที่คนอื่นอิจฉา
กระต่ายตกปลา
วันที่ 1 กระต่ายออกไปตกปลา กลับมาตัวเปล่าไม่ได้ปลากลับมาเลย วันที่ 2 กระต่ายไปตกปลาอีก แต่ก็กลับมาตัวเปล่าเหมือนเมื่อวาน วันที่ 3 เมื่อกระต่ายไปถึงบ่อปลา ปลาตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นจากน้ำและตะโกนพูดขึ้นว่า “ถ้านายยังเอาแครอทมาเป็นเหยื่ออีก นายก็ไม่มีวันตกพวกฉันได้หรอก” ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ : คุณให้ในสิ่งที่คุณชอบแก่คนอื่น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการ อุทิศให้ในแบบโลกของคุณ มันไม่มีค่า
เอาใจเขามาใส่ใจเรา
ภรรยากำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว มีสามีคอยกำกับอยู่ข้าง ๆ “คนเบา ๆ ช้า ๆ หน่อย ระวังหน่อยสิ ไฟแรงไปเร็ว ๆ รีบพลิกปลาได้แล้ว ตักออกมาสิ น้ำมันเยอะไปนะ คีบเต้าหู้วางให้ตรง ๆ สิ! ” ภรรยาทนไม่ไหวจึงพูดออกไปว่า “นี่คุณ ฉันทำกับข้าวเป็น พูดอยู่ได้” “ที่รัก ผมรู้ว่าคุณทำเป็น” ผู้เป็นสามีบอกออกไป “ผมเพียงอยากให้คุณรู้ว่า เวลาที่ผมขับรถแล้วคุณคอยบอกให้ผมเบรก ให้ผมเร็ว ให้ผมระวัง ให้ผมแซงน่ะ…
หนูตกถังข้าวสาร
หนูตัวหนึ่งตกลงไปในถังข้าวสาร แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ มันดีใจมาก มันคิดว่ามันโชคดี มันจึงกินข้าวสารนั้นอย่ างอิ่มหมีพีมัน กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เป็นอยู่อย่างนี้หลายวัน และวันแห่งความสุขก็มักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ วันหนึ่งตอนที่มันกินจนเห็นพื้นของถังข้าวสาร มันฉุกใจคิด แต่ข้าวสารในถังก็เป็นสิ่งที่ยั่วยวนเหลือเกิน มันกินจนข้าวสารในถังหมดไป ถึงตอนนี้มันถึงรู้ว่า การปีนออกจากถังเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ : การใช้ชีวิตของเราดูเหมือนปกติธรรมดา แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเต็มไปด้วยกับดักและหลุมพรางที่แสนอันตราย